MENU

Your Search

Welcome to
Agricultural Machinery Manufactures Industry Club
Information Hub & Advantages for the Members’ Success
Recommend
Click
News Updates
ที่บริเวณภาควิชาการเกษตรกลวิธา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ดร.สมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดงานมหกรรมแทรกเตอร์และจักรกลการเกษตรไทย โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันของอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรกลการเกษตรของประเทศไทย ให้เป็นหนึ่งในผู้นำด้านอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรกลการเกษตรของเอเชีย ตลอดจนเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เห็นสินค้าที่มีคุณภาพ รวมทั้งนวัตกรรมและเทคโนโลยีของผลิตภัณฑ์เครื่องจักรการเกษตรจากบริษัทชั้นนำในประเทศไทย ทั้งนี้การจัดงานดังกล่าวได้รับความสนจอย่างกว้างขวางจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับภาคอุตสาหกรรมการเกษตร ตั้งแต่ผู้ผลิตเครื่องจักรและเทคโนโลยี เกษตรกร นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันการเกษตรของไทยให้ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและเครื่องจักรที่ทันสมัย มีการเพิ่มผลผลิตและพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรกรรมของไทยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่าปัจจุบันเทคโนโลยีของเครื่องจักรกลทางการเกษตรสาสมารถเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตทางการเกษตรและลดต้นทุนได้ การจัดงานครั้งนี้เพื่อมุ่งหวังให้อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรไทย มีศักยภาพในการแข่งขันในกลุ่มประเทศอาเซียนและแอฟริกา รวมถึงให้เป็นที่ยอมรับของเกษตรกรทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเครื่องจักรกลการเกษตรเป็นสินค้าการเกษตรและอุตสาหกรรม ที่มีแนวโน้มการส่งออกและสร้างรายได้ให้กับประเทศมากขึ้น จึงต้องเร่งพัฒนานวัตกรรมการออกแบบ อาทิ เทคโนโลยีสมาร์ทฟาร์ม 4.0 ตลอดจนมาตรฐานของสินค้า และคุณภาพการให้บริการหลังการขาย ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรไทยยกระดับความเป็นผู้นำในการส่งออกสินค้าจักรกลเกษตรของโลก ที่สำคัญยังเป็นการขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐด้านการค้าระหว่างประเทศในตลาดที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะกลุ่มแระเทศแอฟริกา เอเชียใต้ และอาเซียนอีกด้วย
Read More...
02 ต.ค. 2563
ประกาศ! สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจะมีการย้ายสำนักงานจากศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ไปยังสำนักงานใหม่เลขที่ 2 อาคารปฏิบัติการเทคโนโลยีเชิงสร้างสรรค์ (มทรก.) ชั้น 8 ถนนนางลิ้นจี่ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10210ตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-345-1000
28 2563
Activities
44
รัฐมนตรีเกษตรฯ “กฤษฎา” เร่งสร้างความเข้าใจในการดำเนินโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูการทำนา เน้นย้ำ ! ให้จัดสรรจำนวน/โควตา/พื้นที่ ในการรับซื้อผลผลิตให้กับบริษัทเอกชนทุกกลุ่มไม่ผูกขาดกับบริษัทใดบริษัทหนึ่งอย่างเด็ดขาด      นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกร์ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้รับความเห็นชอบจาก ค.ร.ม.ให้ดำเนินการโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูการทำนา โดยมีมาตรการลดความเสี่ยงของเกษตรกรในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การหาผู้รับซื้อผลผลิตและทราบราคารับซื้อก่อนลงมือทำการเกษตร การสนับสนุนทุนในการผลิต และการทำประกันภัยพืชผล เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ กระทรวงเกษตรฯ ทราบว่ากลุ่มบริษัทเอกชนต่าง ๆ เริ่มไปประสานงานรับซื้อผลผลิตจากกลุ่มเกษตรกรบ้างแล้ว จึงได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และผู้รับชอบโครงการทุกระดับ ดำเนินการต่าง ๆ ดังนี้       1) มอบหมายให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัด และเกษตรจังหวัดทุกจังหวัดที่เข้าร่วมโครงการ ให้จัดตั้งเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการประสานงานกับภาคเอกชน ในการลงไปรับซื้อผลผลิตทั้งในส่วนกลางและระดับจังหวัดไว้ด้วย โดยให้เริ่มปฏิบัติงานตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป       2) ให้เน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบทุกระดับ ให้ไปดูแลและกำกับการทำสัญญารับซื้อผลผลิตระหว่างเกษตรกรกับบริษัทเอกชนให้ได้รับความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ตามหลักกฎหมายส่งเสริมเกษตรพันธสัญญาที่เป็นธรรมด้วย      3) ในการทำสัญญารับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรนั้น ขอให้พยายามดำเนินการผ่านกลุ่มเกษตรกรที่ได้จัดตั้งไว้และมีความเข้มแข็งในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมแล้ว เช่น สหกรณ์การเกษตร/วิสาหกิจชุมชน สมาชิกกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ กลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ (Smart Farmer & Young Smart Farmers) กลุ่มผู้ใช้น้ำชลประทาน ฯลฯ เพื่อให้เกษตรกรที่เป็นสมาชิกกลุ่มมีอำนาจต่อรองในการขายผลผลิตที่ไม่เสียเปรียบและมีความมั่นใจว่าจะมีรายได้ที่ไม่น้อยกว่าต้นทุนในการทำเกษตรกรรมครั้งนี้ รวมทั้งมีรายได้ให้กับครอบครัวไม่น้อยกว่าการทำนาปรังด้วย       4) ขอให้จัดสรรจำนวน/โควตา/พื้นที่ ในการรับซื้อผลผลิตให้กับบริษัทเอกชนทุกกลุ่มไม่ผูกขาดกับบริษัทใดบริษัทหนึ่งอย่างเด็ดขาดและให้ทุกบริษัทเอกชนที่เข้าร่วมโครงการต้องแจ้งเงื่อนไขและราคาในการรับซื้อผลผลิตจากกลุ่มเกษตรกรรวมทั้งคุณสมบัติ/ชนิด/ประเภทของผลผลิต ที่จะรับซื้อจากเกษตรกรให้ชัดเจนรวมทั้งจุดรับซื้อในพื้นที่ด้วย       และ 5) ขอให้เกษตรและสหกรณ์จังหวัด ในฐานะเลขานุการ อ.ก.พ.จังหวัด สรุปรายงานสถานการณ์ความเคลื่อนไหวด้านต่าง ๆ เกี่ยวกับโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูการทำนาในพื้นที่ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบทุกระยะ โดยให้สำเนาส่งให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมปศุสัตว์ กรมชลประทาน และกรมพัฒนาที่ดิน ทราบด้วย รวมทั้งให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มอบหมายผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทุกเขต ร่วมกับผู้ตรวจราชการกรมทุกกรม และ ผอ.เขต/สถานี/หน่วย ทุกหน่วยในพื้นที่ ไปตรวจสอบติดตามรับฟังการดำเนินงานของหน่วยปฏิบัติตามขั้นตอนต่าง ๆ ข้างต้น แล้วรายงานผลการปฏิบัติ ตลอดจนปัญหาหรืออุปสรรคต่าง ๆ และคำแนะนำในการแก้ไขปัญหาเข้ามายังส่วนกลางต่อไป
Links